ประวัติ : เดวิด มอยส์

วันเกิด 25 เมษายน 1963 (50 ปี)
สถานที่เกิด ไบลธ์สวู้ด, กลาสโกว์
สโมสรเดิม เปรสตัน นอร์ธ เอนด์, เอฟเวอร์ตัน
เกียรติประวัติ แชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ปี 2000
เดวิด มอยส์ ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้จัดการทีมของประเทศอังกฤษ เขาเคยรับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีมาแล้ว 3 สมัย หลังจากที่ทำผลงานได้ดีกับเอฟเวอร์ตัน ทั้งที่ไม่ได้มีเงินทุนสนับสนุนมากนัก
มอยส์เริ่มเอาดีในอาชีพโค้ชตั้งแต่อายุยังน้อย เขาได้รับการอบรมด้านโค้ชตั้งแต่อายุเพียง 22 ปี กุนซือชาวสก็อตรายนี้เริ่มต้นอาชีพนักเตะกับกลาสโกว์ เซลติก ได้ไปเตะในถ้วยยุโรป และคว้าแชมป์ลีกร่วมกับทีม ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด, บริสตอล ซิตี้, ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์, ดันเฟิร์มลิน แอธเลติก และแฮมิลตัน อคาเดมิคัลส์ สุดท้ายก็ไปยุติอาชีพค้าแข้งที่เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ซึ่งที่นั่นเขาได้รับบทบาทเป็นผู้จัดการทีมเป็นครั้งแรกด้วย

มอยส์สืบทอดตำแหน่งจาก แกรี่ ปีเตอร์ส ในถิ่นดีพเดล ในปี 1998 ด้วยวัย 34 ปี หลังจากที่เคยมีชื่ออยู่ในทีมสต๊าฟฟ์โค้ชมาแล้วก่อนหน้านั้น เขาช่วยป้องกันไม่ให้ทีมร่วงชั้นลงไปอยู่ในดิวิชั่น 3 ได้สำเร็จ จากนั้นก็จัดการเปลี่ยนสไตล์การเล่นของสโมสร จากที่แต่ก่อนเอาแต่สาดบอลยาว มาเล่นแบบเน้นการจ่ายบอลสั้นแทน
ต่อมาก็ถึงเวลาที่เขาได้คุมทีมเปรสตันแบบเต็มฤดูกาล และพาทีมผ่านไปเตะรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ก่อนที่จะไปแพ้ต่อจิลลิ่งแฮม การทำทีมของมอยส์ในตอนนั้นได้รับการสรรเสริญจากทั่วสารทิศ และต่อมาในปี 2000 เปรสตันก็เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จในฐานะแชมป์ ซึ่งนับว่าเป็นการเล่นในลีกระดับนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษของพวกเขาเลยทีเดียว
แต่ 12 เดือนต่อมาพวกเขาไปแพ้ต่อโบลตัน วันเดอเรอร์ส ในรอบเพลย์ออฟ ทำให้พลาดการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดไปอย่างน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่มอยส์จะต้องย้ายออกมาจากเปรสตัน เขาตกเป็นข่าวกับทั้งมิดเดิ้ลสโบรช์, เซาแธมป์ตัน และเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ก่อนที่สุดท้ายจะไปลงเอยกับเอฟเวอร์ตันในเดือนมีนาคม 2002 สิ่งหนึ่งที่ทำให้เอฟเวอร์ตันเลือกเขามาคุมทีมก็เพราะว่าเขาเคยทำทีมเปรสตันด้วยงบประมาณที่น้อยนิดจนประสบความสำเร็จมาแล้วนั่นเอง
มอยส์พาทีมรอดตกชั้นได้จากการคุมทีมไม่กี่นัดในช่วงแรกของเขา และเพียงในฤดูกาลต่อมา เขาก็ถูกเลือกเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี หลังจากที่เกือบพาทีมไปเตะุถ้วยยุโรปได้ อย่างไรก็ตามในฤดูกาลต่อมาทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินก็กลับไปสู่ความตกต่ำอีกครั้ง เมื่อรอดพ้นการตกชั้นไปเพียงแค่อันดับเดียวเท่านั้นในฤดูกาล 2003-2004 แถมยังเสียดาวยิงประจำทีมอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ด้วย
แต่ว่ามอยส์ก็พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เขากระตุ้นลูกทีมจนสามารถทำอันดับมาจบที่ 4 บนตารางได้ในฤดูกาลต่อมา เขาทำให้ทีมประสบความสำเร็จด้วยสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่ง ไล่บี้คู่แข่ง และทุ่มเทเต็มร้อย และมอยส์ก็คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี
อย่างไรก็ตามทีมก็เกิดหายนะขึ้นในรอบคัดเลือกของศีกแชมเปี้ยนส์ ลีก จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มอยส์ตกอยู่ในสถานการณ์กดดันอย่างมาก เริ่มมีการพูดกันว่าอาจจะได้เวลาที่มอยส์จะต้องออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ดีกับเอฟเวอร์ตันมา ในฤดูกาลดังกล่าวพวกเขาจบอันดับที่ 11 บนตาราง และมอยส์ก็ตัดสินใจอยู่ต่อ
นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เอฟเวอร์ตันถูกมองว่าเป็นสโมสรที่มีผลงานขึ้นๆ ลงๆ 3 ฤดูกาลหลังจากนั้นพวกเขาจบอันดับครึ่งบนของตารางมาโดยตลอด และก็ได้ไปเตะในถ้วยยุโรปเป็นประจำด้วย ด้วยปัญหาทางการเงินทำให้มอยส์ถูกบังคับให้ต้องจัดการทีมด้วยจำนวนผู้เล่นที่มีไม่มาก รวมถึงงบประมาณที่จำกัดด้วย แต่ถึงกระนั้น ผู้จัดการทีมชาวสก็อตก็ยังคงคว้ารางวัลส่วนตัวมาครองได้อยู่ดี เป็นการสั่งสมเกียรติประวัติของตัวเขาเองให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ในปี 2012 เขาได้รับการจารึกชื่อว่าคุมทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ได้เป็นเวลาครบทศวรรษ การไล่ล่าถ้วยแชมป์ของเขายังคงดำเนินต่อไป หลังจากที่พลาดท่าพ่ายต่อเชลซีมาในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 2009
จุดแข็งของเขานั้นก็คือการเป็นยอดนักคิดตัวจริงเสียงจริง เขาต้องการให้นักเตะของเขามีความฟิตในระดับสูงอยู่เสมอ รวมถึงมีกฏเกณฑ์อื่นๆ ที่ชัดเจนด้วย เขาเป็นคนที่เคร่งครัดต่อกฏระเบียบ มอยส์จะลงโทษนักเตะคนใดก็ตามที่ไปพูดออกสื่อในสิ่งที่เขาไม่อนุญาต หรือว่าไปทำผิดกฏใดๆ ของสโมสร แม้ว่าจะแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตามที
ที่เห็นจะเป็นข้อด้อยของเขานั้นก็คือเขามีความเชื่อใจในตัวนักเตะของเขามากเกินไป ทำให้ไม่ค่อยมีการปรับเปลี่ยนทีมให้เห็นบ่อยนัก เขายังคงมีแท็กติกที่ไม่แน่นพอสำหรับเกมใหญ่ๆ ด้วย
จุดสูงสุดในอาชีพของเขาคือการพาทีมคว้าอันดับ 4 ในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2004-2005 หลังจากที่เพิ่งพาทีมหนีตกชั้นมาเมื่อฤดูกาลก่อนหน้า ส่วนสิ่งที่ทำให้เขาช้ำชอกใจมากที่สุดคงเป็นการพ่ายแพ้ต่อเชลซี ในนัดชิงชนะเลิศศึกเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2009 ทั้งที่ทีมของเขาเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีแรก
บางครั้งเขาก็ชอบจัดทีมโดยที่ไม่มีกองหน้าตัวเป้า แผนการเล่นที่เขาใช้บ่อยสุดคือ 4-5-1 โดยเน้นการเล่นที่แข็งแกร่งดุดัน ไล่บี้คู่แข่ง และทุ่มเทเต็มร้อย
ก่อนหน้านี้ บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสรเอฟเวอร์ตันเคยออกมาพยายามรั้งตัวมอยส์ไม่ให้ย้ายไปคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว “เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดีที่มีข่าวออกมาว่าเราจะปล่อยตัวเดวิดไปคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ง่ายๆ” เขากล่าว “แฟนๆ เอฟเวอร์ตันต่างก็รู้ดีว่าผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาอยู่คุมทีมของเราต่อไป”
สำหรับเกร็ดน่ารู้เล็กๆ น้อยๆ ในตัวของมอยส์ก็คือเขาเคยเล่นร่วมทีมเปรสตันกับ เดวิด เบ็คแฮม ตอนที่ดาวเตะอังกฤษไปเล่นอยู่ที่นั่นด้วยสัญญายืมตัวในช่วงยังเป็นเยาวชน
หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือ บอร์ดบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงมติเป็นเอกฉันท์เห็นด้วยกับคำแนะนำของ เซอร์ อเล็กซ์ แต่งตั้ง เดวิด มอยส์ เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยจะเริ่มงานในวันที่ 1 กรกฏาคม สัญญาครั้งนี้มีระยะเวลา 6 ปี
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Jax