ตั้งแต่เห็นรายชื่อแก๊งค์อสูรเด็กที่ป๋าเฟอร์กี้ เหน็บไปตุรกี ผมก็ทำใจไว้ก่อนแล้วว่าไม่แคล้วคงจะถูกเจ้าถิ่นกระทำชำเรากลับมาแน่ ถึงขนาดกระซิบหัวหน้าที่ทำงานว่า ‘พี่อย่าตื่นขึ้นมาดูเลย ชีช้ำเปล่าๆ’ แต่จนแล้วจนรอดก็เป็นตัวผมเองที่หักห้ามใจไม่ไหว ฟื้นชีวิตจากการหลับไหลมาตั้งแต่ตีสี่ครึ่งมาถ่างตารอดูเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในบรรยากาศที่ค่อนข้างจะหนาวเล็กน้อย
พอเปิดทีวีมาก็แทบจะปิดทันทีที่เห็นสปอตโปรโมตการถ่ายทอดของ ESPN มันทะลึ่งใช้คำแทนเด็กๆ ของป๋าเฟอร์กี้ว่า young guns จังหวะนั้นวัยรุ่นเซ็งเลยสิครับท่าน
อัปมงคลนามจริงๆ พูดมาได้ยังไง guns ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำที่ฝรั่งเขาใช้กันปกติทั่วไป สำหรับพวกดาวรุ่งซึ่งมีแววอนาคตสดใสด้วยซ้ำ แต่โทษทีเถอะอย่ามาใช้กับเด็กป๋าได้มั้ยเนี่ย มันแสลงหู!!
พอเริ่มแข่งได้ไม่นานผมก็ว่าทัพอสูรเด็กของเราเล่นเข้าทีดีเหมือนกัน ทำเกมรุกใส่ทีมชั้นนำของตุรกี อย่างเฟเนร์บาห์เช่ อย่างน่าดู เสียแต่ว่าไม่มีจังหวะปิดสกอร์เท่านั้นเอง ก็ป๋าแกเล่นวางหมาก 4 – 5 – 1 เอาผีพุ่งไต้ความเร็วสูงอย่างเบลลิยอง เป็นหน้าเป้าตัวเดียว แล้วมันจะทำอะไรชาวบ้านเขาได้กา
แต่ก็เอาเถอะยังไงก็ผ่านเข้ารอบอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นที่หนึ่งหรือที่สองของกลุ่ม ผีแดงเราไม่สนอยู่แล้วเพราะถ้าอยากเป็นเจ้ายุโรปเจอทีมไหนก็ต้องชนะให้ได้ถึงมันจะบิ๊กมาจากไหนก็เถอะ
เกมนี้อยากจะชมแผงกลางเราเหลือเกินว่าบู๊ดีเหลือเกินไล่บี้กองทัพไก่งวง แทบทุกจังหวะ โดยเฉพาะเจ้าหนูโด้ที่วันนี้เลื้อยได้เข้าที กับเฟร็ทเชอร์ที่เปิดบอลสวยๆ หลายลูก แต่พวกเติร์ก ก็ฟิตกันเหลือเกินเข้ารุมเบียดแย่งบอลทุกโอกาสแถมเล่นกันหนักๆ ทั้งนั้น ทำเอาเกมรุกที่ฝากไว้กับเด็กอายุสิบเก้าเสียกระบวนไปเลย โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่นักบอลเติร์ก วิ่งสู้ฟัดตามคำสั่งกุนซือโคเคน คริสโตฟ ดอย์ม คนเดียวกับที่นำทีมห้างขายยาไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาเขี่ยผีแดงตกรอบเมื่อหลายปีก่อน จนกองพันอสูรวัยเยาว์ของเราป้อแป้และต้องสังเวยประตูในที่สุด
ตลอดเก้าสิบนาทีกับผลการแข่งขันที่เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากโดนไปซะสามดอก จากที่คาดไว้ว่าโดนซักดอกหรือยันเจ๊าก็หรูแล้วถ้าสองดอกถือว่าเสมอตัว แต่ก็เอาเถอะทำใจไว้แล้วถึงเราจะมีผู้เล่นติดทีมชาติลงเป็นสิบเอ็ดคนแรกถึงเก้าตัว แถมไม่ค่อยได้เคาะสนิมแข้งกันเป็นประจำเล่นได้อย่างที่เห็นเป็นใช้ได้ จะมีเสียดายก็แค่จุดอ่อนเกมรุกเกมรับอย่างละคนเท่านั้นที่ทำให้เกมรุกแป็กและก็คุมตัวผิดพลาดในเกมรับจนทำให้เสียประตูทั้งสามประตู
อย่าไปพูดถึงมันเลย ไม่ใช่เทวดานี่จะได้ไม่พลาดเลย
ที่ขาดไม่ได้ตามที่จั่วหัวแต่ผมทะลึ่งเอามาเขียนไว้ป่านฉะนี้คือ โฟกัสของเกมนี้ที่ผมอยากเห็นที่สุดคือการกลับมาของทีโฮ : ทิม โฮเวิร์ด นายทวารมะกันขวัญใจแฟนผี ปรากฏว่าเปิดตัวไม่สวยเฮะ โดนไปเสียสามดอกแบบที่ป้องกันตัวเองไม่ได้ และก็มีจังหวะล้มลุกคลุกคลานให้เห็นอยู่บ้างแต่จังหวะนั้นไม่เสียประตูถือว่ารอดไป ทีนี้มาดูจังหวะที่เสียประตูแต่ละลูกแต่ละดอกกันดีกว่าว่า ‘ทีโฮ – – เธอผิดหรือไม่’
ลูกแรกจากเซตพีซ บอลจากด้านขวามือลอยย้อยมาให้นักเตะวิปลาส ‘ตุนกาย ซาลี่’ กระโดดฟาดยังกับตะกร้อเด้งคานเข้าไป เห็นเหมือนกันครับว่าทีโฮ พยายามเซฟ แต่ด้วยระยะขนาดนั้น ความแรงของบอล แถมยังโดนกองหลังกันเองบังอีก เอาแค่พุ่งไปถูกทางก็เก่งแล้ว ขอพิพากษาว่า ‘ไม่ผิด’
ลูกที่สองก็มาจากเซตพีซอีก คราวนี้มาจากด้านซ้ายมือบอลลอยมาเสาแรก กองหลังโหม่งไม่ถึงแล้วก็เป็นไอ้เจ้าตุนกาย เจ้าเก่าวิ่งสอดมาโขกแบบไม่มีสิทธิ์เซฟแม้แต่น้อย จังหวะนี้ขอพิพากษาว่า ‘ไม่ผิด’
ลูกที่สามจังหวะเคาน์เตอร์ เป็นไอ้เจ้าศูนย์หน้าสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงมาได้บอลโหม่งเช็ดจากอเล็กซ์ ตัวทำเกมบราซิลเลี่ยน ที่ครั้งนึงเคยมาโชว์ฝีเท้าที่เมืองไทยในนามทีมกาแฟชุดเล็ก จากนั้นค่อยปาดมาตรงกลางนอกเขตโทษให้มือสังหารคนเดิมแปสวนตัวทีโฮ เสียบเสาแรกไปแบบเฉียบขาด
จะว่าไปลูกนี้ถือว่าออกมาปิดมุมไม่ดีเท่าไหร่แต่เอาเหอะบังเสาใกล้ก็เปิดเสาไกล ถือว่าเป็นความยอดเยี่ยมคมกริบของตุนกาย ยกประโยชน์ให้จำเลย พิพากษาว่า ‘ไม่ผิด’ ก็แล้วกัน
สรุปแล้วผมถือว่าทั้งสามประตูที่เสียไปทีโฮ ไม่ผิด เพราะมันเกินกว่าจะหักห้ามใจจริงๆ แต่ยังไงผลงานอย่างนี้คงจะต้องติดสนับก้นเป็นตัวสำรองต่อไปละกัน ที่ต้องยกนิ้วให้เลยก็เห็นจะไม่พ้นตุนกาย ซาลี่ หัวหอกตัวเก่งดีกรีทีมชาติตุรกี อันตรายทุกจังหวะจริงๆ แต่ละลูกที่เราเสียไปนี่ก็เน้นๆ แบบไม่ต้องแก้ตัว และผมไม่โทษกองหลังคนนึงที่มีหน้าที่คุมเจ้าตุนกาย แต่จับไปอยู่จนต้องเสียประตูทุกจังหวะ (ถ้าดูรีเพลย์จะเห็นว่าทุกจังหวะจริงๆ ว่าจะไม่พูดแล้วเชียว)
แถมท้ายสักนิดก่อนจะอกแตกตาย พอจบเกมผมก็เปลี่ยนช่องไปดู ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยได้ดูเนื่องจากตื่นไม่ทัน แต่พอกดช่องสามเท่านั้นล่ะผมแทบจะเอารีโมทขว้างจอทีวี เพราะเฮียสรยุทธ พิธีกรคนโปรดของผมทะลึ่งเอาไฮไลต์การยิงประตูของนกกระเด้าลมมาเปิดให้ดูแบบถึงลูกถึงคน แถมยังสรรเสริญซะเลิศเลอ สร้างความหมั่นไส้เป็นกำลังสอง ยังไม่พอเฮียแกเล่นขุดผลการแข่งขันตั้งแต่สมัยที่ผมยังไม่เกิด (1976 ถ้าจำไม่ผิด) มาพูด ‘ยุคนั้นลิเวอร์พูล ต้องชนะบาเลนเซีย 3 – 1 ถึงจะเข้ารอบเหมือนกับเกมนี้ แล้วสุดท้ายหงส์แดง ก็เป็นแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ’ – – เอาเถอะครับอาเฮีย ผมชินแล้วล่ะเวลาเดอะ ค็อป ทั้งหลายขุดความภูมิใจสมัยทศวรรษก่อนมาพูด – – คนแก่ทีมเก่าก็เงี้ยจมอยู่กับเรื่องเก่าๆ เฮ้อ
ขออนุญาตถอนหายใจ
Baki
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC